fbpx

เตารีดไอน้ำอุตสาหกรรม แตกต่างจากเตารีดไอน้ำทั่วไปยังไง

สำหรับร้านซักรีด หรือสตูดิโอตัดเสื้อผ้า, ม่าน, หรืองานผ้าอื่นๆ คงต้องเคยประสบปัญหากับเตารีดที่ใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรีดเท่าไหร่ก็ไม่เรียบ, รีดแล้วผ้าหด ผ้าขึ้นเงา, รีดนานจนปวดแขน, รีดแล้วผ้าไม่เป๊ะอย่างที่ต้องการ อาจจะเป็นเพราะเราใช้เตารีดไม่เหมาะสมกับการใช้งานอยุ่ก็เป็นไปได้

เตารีดไอน้ำคืออะไร

เตารีดที่มีส่วนผสมของไอน้ำออกมาขณะใช้งานรีด ซึ่งไอน้ำจะช่วยทำให้เส้นใยของผ้าอ่อนตัวลง และในขณะเดียวกันตอนใช้งานรีดมีความร้อนที่มาจากตัวเตารีดและน้ำหนักของเตารีดมาเป็นส่วนประกอบด้วย ก็จะทำให้ตัวผ้าเรียบง่ายกว่าการรีดด้วยเตารีดที่มีความร้อนเพียงอย่างเดียว

ข้อแตกต่างระหว่างแบบอุตสาหกรรมกับครัวเรือน

ข้อแตกต่าง

เตารีดไอน้ำอุตสาหกรรม

เตารีดไอน้ำทั่วไป

1. วัสดุ

สแตนเลาส, เหล็ก แข็งแรง ทนทาน

พลาสติก อาจเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน

2. อายุการใช้งาน

5-10 ปีขึ้นไป หากมีดูแลรักษาที่ดี

1-5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการใช้งาน

3. การใช้งานต่อเนื่อง

ใช้ได้ยาวตลอดทั้งวัน

ไม่ควรใช้ติดกันเกิน 3 ชั่วโมง

4. เวลาที่ใช้ในการรีด

รีดได้เร็วกว่า เนื่องจากปริมาณไอน้ำและน้ำหนักที่เหมาะสม

รีดได้ตามปกติ แต่หากเจอรอยยับหนักอาจไม่เรียบ

5. อะไหล่สำรอง

มีอะไหล่สำรองเปลี่ยนทุกชิ้น

อะไหล่หายาก หรืออาจไม่มีเลย

ประเภทของเตารีดอุตสาหกรรม

เตารีดไอน้ำล้วน คือเตารีดที่ตัวหน้าเตารีดไม่มีฮิตเตอร์ทำความร้อน แต่จะได้ความร้อนมาจากไอน้ำที่มีอุณหภูมิสูง เลยทำให้หน้าเตารีดมีความร้อน

เตารีดไอน้ำไฟฟ้า คือ เตารีดที่ตัวเตารีดมีฮิตเตอร์ทำความร้อนในตัวและมีไอน้ำด้วย และตัวเตารีดสามารถปรับระดับความร้อนให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าประเภทต่างๆได้ และเตารีดไอน้ำไฟฟ้ายังแบ่งย่อยออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. เตารีดไอน้ำไฟฟ้าที่ใช้กับตัวเครื่องบอยเลอร์/หม้อต้มไอน้ำ คือ เตารีดจะสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อนำเตารีดไปประกอบเข้ากับตัวบอยเลอร์ก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้
  2. เตารีดไอน้ำไฟฟ้าแบบกระปุกน้ำเกลือ คือ เตารีดที่มีตัวกระปุกน้ำมาพร้อมกับเตารีดสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องไปประกอบคู่กับตัวบอยเลอร์ก็สามารถใช้งานได้เลย ง่ายต่อการใช้งาน

เหมาะกับหน้างานแบบไหน

เตารีดไอน้ำล้วน เหมาะกับโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่เป็นเนื้อผ้าทั่วไป หรือ เนื้อผ้าที่ไม่ได้หนามากหรือที่ต้องใช้ความร้อนสูงมารีดกับผ้าประเภทนั้น สำหรับเนื้อผ้าที่เหมาะกับการใช้งานเตารีดประเภทนี้คือ ผ้าคอตตอน, ผ้าทีซี TC, ผ้าทีเค TK, ผ้าทอใยสังเคราะห์ Woven, ผ้ากีฬา เป็นต้น

เตารีดไอน้ำไฟฟ้า เหมาะกับโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่เป็นเนื้อผ้าหนาและที่ต้องการความร้อนมาช่วยให้ตัวผ้าเรียบและอยู่ทรง เช่น ผ้ายีนส์, ผ้าไหม เหมาะกับร้านบริการซักอบรีด เพราะทางร้านต้องเจอผ้าหลากหลายประเภทจึงเหมาะที่จะใช้งานกับเตารีดประเภทนี้มากกว่า แต่ต้องปรับอุณหภูมิของเตารีดให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า เพราะถ้าอุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้ผ้าเกิดปัญหาไหม้ หรือ หดได้

เตารีดไอน้ำไฟฟ้า แบบกระปุกน้ำเกลือ เหมาะกับร้านซักรีดขนาดเล็ก หรือบ้านอยู่อาศัยทั่วไป เพราะสามารถใช้เสียบกับปลั๊กบ้านทั่วไปได้เลย และใช้งานง่ายราคาไม่สูงและใช้กับปริมาณผ้าที่ไม่เยอะเกินไป

การเลือกใช้งาน

โดยทั่วไปลูกค้าจะเลือกจากประเภทของเตารีดเป็นหลักสำคัญก่อน และหลังจากนั้นจะมาเลือกรุ่นของเตารีดประเภทนั้นอีกครั้ง อาทิเช่น เตารีดไอน้ำล้วน ก็จะมีหลายรุ่นแตกต่างกันไปตามขนาดหน้าเตา , น้ำหนัก, ลักษณะการใช้งานของคนรีดที่คุ้นชิน

การดูแลรักษาเตารีด

  1. ห้ามให้เตารีดหล่นหรือกระแทกกับอะไรรุนแรง 
  2. เลือกน้ำที่จะนำมาใช้กับบอยเลอร์หรือหม้อต้มไอน้ำ ต้องเน้นเป็นน้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำ เพราะจะทำให้เกิดค่าตะกรันน้อยกว่าน้ำปกติที่ยังไม่ผ่านเครื่องกรองน้ำ
  3. (กรณี เตารีดไอน้ำล้วน) เช็ดทำความสะอาดหน้าเตารีดให้สะอาด และหากพบคราบตะกรันตรงช่องปล่อยไอน้ำ ก็ให้หาเข็มมาแกะเอาตะกรันออก และใช้ครีมทำความสะอาดหน้าเตารีดมาเช็ดอีกที
  4. (กรณี เตารีดไอน้ำไฟฟ้า) เช็ดทำความสะอาดด้วยครีมทำความสะอาดหน้าเตารีด และถ้ามีตะกรันเกาะที่รูจ่ายไอจะต้องส่งเข้าศูนย์เพื่อให้ทำการล้างตะกรันด้วยน้ำยา ซึ่งประเภทนี้อาจต้องใช้ช่างและผู้ที่ชำนาญการในการทำเพราะต้องมีการถอดชิ้นส่วนเตารีดเพื่อล้างน้ำยา และมีเรื่องของระบบไฟเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

หากคุณลูกค้าอยากให้ทางเราช่วยแนะนำเตารีดไอน้ำ รุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถทักเข้ามาปรึกษาได้ที่ @mpaishan เลยนะคะ